สำหรับบริษัท
หาบริษัทที่ประกาศเปิด รับสมัครงาน work from home ยังไงให้ถูกเรียกสัมภาษณ์

หาบริษัทที่ประกาศเปิด รับสมัครงาน work from home ยังไงให้ถูกเรียกสัมภาษณ์

09 มกราคม 2567

หาบริษัทที่ประกาศเปิด รับสมัครงาน work from home ยังไงให้ถูกเรียกสัมภาษณ์

09 มกราคม 2567

       ใครกำลังมองหางานยกมือขึ้น! ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนนั้น ที่กำลังมองหางานที่ทำอยู่ที่บ้าน หรือที่เรียกกันว่างาน Work From Home ที่เรียกได้ว่า กำลังได้รับความนิยมจากทั้งฝั่งขององค์กร บริษัท และทางฝั่งของผู้สมัครงาน ไม่ว่าจะเป็นเหล่า First Jobber หรือ คนทำงานที่มีประสบการณ์และอยากเปลี่ยนวิธีการทำงาน ให้มี Work Life Balance มากขึ้น ทราบกันไหมว่า การสมัครงานรูปแบบนี้ ผู้สมัครงานต้องหาบริษัท ที่ประกาศเปิด รับสมัครงาน work from home แบบไหนถึงจะดี ได้เงินเดือนที่เหมาะสม ถูกเรียกสัมภาษณ์งาน ได้รับงานทำจริงๆ และไม่ถูกหลอกขโมยข้อมูล  ตาม Jobmyway มาดูบทความ หาบริษัทที่ประกาศเปิด รับสมัครงาน work from home ยังไงให้ถูกเรียกสัมภาษณ์ กัน


เทคนิคการหาบริษัทที่ รับสมัครงาน work from home  ให้ได้งานจริง


1.Search หางานจากวันที่ล่าสุด
ขั้นตอนแรกของการหางาน work from home เลยก็คือ การค้นหางาน โดยเริ่มจากการค้นหางานจากวันที่ล่าสุด เนื่องจากประกาศหางานในหลายๆเว็บไซต์ อาจเป็นข้อมูลเก่า ที่ไม่ได้อัปเดตข้อมูลมาเป็นเวลานาน ซึ่งตำแหน่งงานเหล่านั้นอาจถูกยกเลิก หรืออาจได้คนทำงานไปแล้ว การส่งข้อมูลสมัครงานไปยังบริษัทเหล่านั้น อาจทำให้คุณต้องเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ จึงควรเลือกดูประกาศ รับสมัครงาน work from home ที่มีความเป็นปัจจุบันมากที่สุด ซึ่งอาจเลือกวันที่ ที่เก่าที่สุดคือ 1 เดือนย้อนหลัง เพื่อให้การสมัครงานของคุณ มีโอกาสที่จะถูกเรียกสัมภาษณ์ และเรียกเข้าทำงานได้มากที่สุดนั่นเอง อีกทั้งอย่าลืมเข้าไปอัปเดต ดูประกาศรับสมัครงานบ่อยๆ เพื่อที่จะได้มีโอกาสส่งใบสมัครงานได้ก่อนคนอื่น และถูกเรียกสัมภาษณ์งานก่อนคนอื่นนั่นเอง



2.หาจากเว็บไซต์ รับสมัครงาน work from home ที่มีความน่าเชื่อถือ
ขั้นตอนต่อมาในการสมัครงาน work from home เลยก็คือการหาประกาศรับสมัครงาน จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากปัจจุบันได้มีเว็บไซต์ที่มีเหล่ามิจฉาชีพปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณไม่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์  อีเมล์ ประวัติการทำงาน หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ ซึ่งถ้าหากได้เผลอส่งข้อมูลเหล่านั้นไปสมัครงาน ก็อาจทำให้ข้อมูลของคุณรั่วไหล และอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ การเลือกเว็บไซต์รับสมัครงานที่มีความน่าเชื่อถือ มีที่ตั้งบริษัทจริง มีจำนวนผู้เข้าใช้งานเยอะ และมีการอัปเดตข้อมูล ข่าวสาร หรือบทความอยู่สม่ำเสมอ อย่างเว็บ Jobmyway จะช่วยให้คุณสามารถหางาน work from home และถูกเรียกเข้าสัมภาษณ์งานได้จริง และช่วยให้คุณมีโอกาสได้งานที่ถูกใจ เงินเดือนที่ตรงใจได้อย่างแน่นอน


3.เลือกสมัครงานจากเพจที่มีคนใช้งานเยอะ
อีกหนึ่งทางเลือกในการหาโพสต์ รับสมัครงาน work from home ที่ดีเลยก็คือ การค้นหาผ่านเพจบน Facebook เนื่องจากบนเพจเหล่านี้มีจำนวนผู้เข้าใช้งานเป็นจำนวนมาก การหางานทำที่บ้านจึงมีโอกาสได้รับงานมากขึ้น ซึ่งก็มีข้อควรระวังเช่นเดียวกันกับข้อด้านบนเลยก็คือ มีจำนวนมิจฉาชีพเป็นจำนวนมาก จึงควรเลือกสมัครงานจากเพจ หรือกลุ่ม ที่มีการอัปเดตข้อมูลข่าวสารต่างๆอยู่เสมอ มีจำนวนผู้คนที่เข้าใช้งานเยอะ และอย่าลืมก่อนกดสมัครงาน หรือส่งข้อมูลส่วนตัว ให้ตรวจสอบข้อมูลของบริษัท หรือองค์กรเหล่านั้นว่ามีอยู่จริงหรือไม่ เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัยนั่นเอง


4.เลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ
ถ้าถามว่า การส่งใบสมัครงานไปยังโพสต์รับสมัครงาน work from home ควรต้องเลือกส่งใบสมัครไปยังบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือนั้น แล้วบริษัทที่ดูน่าเชื่อถือควรดูอย่างไร? คำตอบคือ การนำชื่อบริษัทไปค้นหาบน Google ตรวจสอบว่ามีอยู่จริงหรือไม่ มีการจดทะเบียนบริษัทจริงหรือไม่ บริษัทตั้งอยู่ที่ใด มีเว็บไซต์ อีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทหรือไม่


5.ส่งจดหมายสมัครงานให้หลากหลาย
การส่งจดหมายสมัครงานเพียงที่เดียว อาจทำให้คุณมีโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์งาน น้อยกว่า เนื่องจากในปัจจุบัน สายการทำงานแบบ Work From Home เรียกได้ว่าถูกได้รับความนิยมจากเหล่าคนทำงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีทั้ง Work Life Balance , ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และประหยัดเวลาในการเดินทางเป็นอย่างมาก หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสในการได้ถูกเรียกสัมภาษณ์งาน ก็ควรส่งใบสมัคร และจดหมายสมัครงานไปให้หลากหลายบริษัท ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับงานทำมากขึ้นนั่นเอง


6.เตรียมเรซูเม่และพอร์ตสะสมผลงานเอาไว้ให้ครบ
ขั้นตอนต่อมาในการเพิ่มโอกาสในการได้เข้าสัมภาษณ์งาน และถูกคัดเลือกเข้าทำงานเลยก็คือ การเตรียมเรซูเม่และพอร์ตสะสมผลงานเอาไว้ให้ครบ เนื่องจากในการคัดเลือกผู้เข้าสมัครที่มีเป็นจำนวนมากนั้น ผู้คัดเลือกอาจต้องใช้เวลาในการคัดเลือกเป็นเวลานาน และอาจต้องเลือกผู้สมัครงานที่มีประวัติการทำงาน และมีผลงานในการทำงานมากกว่าคนที่สมัครงาน แต่ไม่มีผลงานหรือประวัติการทำงานอะไรเลย จึงควรมีการเตรียมเรซูเม่ ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน และพอร์ตสะสมผลงานเอาไว้ให้ครบ


7.การเขียนจดหมายแนะนำตัวเพิ่มความน่าสนใจ
อีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้คุณถูกเรียกเข้าสัมภาษณ์งานได้มากขึ้นเลยก็คือ การเขียนจดหมายเพื่อใช้ในการแนะนำตัว ซึ่งจดหมายแนะนำตัว เป็นสิ่งที่หลายๆคนอาจจะไม่ได้นึกถึง หรืออาจไม่ได้เห็นความสำคัญ แต่การเขียนจดหมายเพื่อแนะนำตัว จะช่วยให้องค์กรสามารถเข้าใจ และรู้จักตัวตนของผู้สมัครงานมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกคัดเลือกเข้าทำงานมากขึ้นอีกด้วย


8.เตรียมตัวให้พร้อมกับการสัมภาษณ์งาน
ขั้นตอนต่อมาเลยก็คือ การเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อรอการสัมภาษณ์งาน ซึ่งควรเริ่มต้นจากการฝึกพูดแนะนำตัว บอกประวัติส่วนตัวคร่าวๆ บอกประวัติในการทำงาน ความชอบส่วนตัว ทัศนคติในการทำงาน Hard Skill/Soft Skill ในการทำงาน ข้อดี และข้อเสียในการทำงาน สิ่งที่คาดหวังในการทำงาน หรือแม้แต่การมองตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้า รวมถึงการเตรียมคำถามที่จะใช้ถามองค์กร ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมองค์กร รูปแบบในการทำงาน อีกทั้ง อย่าลืมศึกษาข้อมูลขององค์กรเอาไว้ เพื่อใช้เตรียมตอบคำถาม และเพื่อที่จะได้รู้จักองค์กร หรือบริษัทที่เราสมัครงานเข้าไปมากขึ้น ซึ่งการเตรียมตัวเหล่านี้จะช่วยให้ผู้สัมภาษณ์สามารถมองเห็นได้ว่า ตัวของเรามีความต้องการที่จะเข้าทำงานในตำแหน่งนี้จริงๆ และยังสามารถเตรียมคำถามเพื่อสอบถามองค์กรว่า ทางองค์กรมีสวัสดิการอะไรที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับคนทำงานได้อีกด้วย


9.เรียกเงินเดือนให้เหมาะสมกับความสามารถ
การเตรียมเงินเดือนที่คาดหวังเอาไว้ จะช่วยให้คุณสามารถตอบคำถามกับผู้สัมภาษณ์งานได้ โดยควรเรียกเงินเดือนให้เหมาะกับความสามารถ ไม่น้อยเกินไป หรือมากเกินไป ซึ่งการเตรียมเงินเดือนที่คาดหวังเอาไว้ จะช่วยให้คุณมีโอกาสในการเข้าทำงานได้มากขึ้น และจะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินเดือนที่ตรงใจนั่นเอง


10.อย่าลืมระบุข้อมูลการทำงาน และวันที่พร้อมเริ่มงาน
อีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไปเลยก็คือ การกำหนดวันที่พร้อมเริ่มงาน และข้อมูล ขอบเขตในการทำงาน โดยถ้าหากมีข้อสงสัยในลักษณะการทำงาน ขอบเขตการทำงาน เวลาทำงาน ควรส่งข้อความ หรือโทรสอบถามผู้รับสมัครงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เข้าใจตรงกัน เช่น ถ้าหากเป็นงาน Work From Home ที่มีวันหยุดสัปดาห์ละ 2 วัน ก็ควรสอบถามว่า วันหยุดที่ได้ เป็นวันเสาร์ อาทิตย์หรือไม่ เป็นต้น และควรระบุวันที่พร้อมเริ่มทำงาน เพื่อให้องค์กรทราบว่า ตัวของเราพร้อมที่จะเริ่มทำงานเลยหรือไม่ หรือต้องใช้เวลา 30 วัน เพื่อแจ้งลาออกจากที่ทำงานเก่าก่อน เป็นต้น

       ก็จบลงไปแล้วสำหรับบทความ หาบริษัทที่ประกาศเปิด รับสมัครงาน work from home ยังไงให้ถูกเรียกสัมภาษณ์ ที่เว็บไซต์ Jobmyway ได้นำมาให้คนที่สนใจอยากสมัครงาน อยากหางานใหม่ ได้นำไปทำตาม เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์งานกัน และเพิ่มโอกาสในการได้งานที่ตรงใจ และเงินเดือนที่เหมาะสมกับความสามารถ  ในครั้งหน้า เราจะพาคุณไปชมบทความดีๆอะไรอีก อย่าลืมติดตามกัน


อ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆได้ที่นี่
รวมวิธี ลงประกาศงานฟรี ให้ยอดเข้าชมพุ่ง
9 ทริคการหางานใกล้ฉัน โดยให้ได้งาน ในบริษัทที่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์
แนะนำวิธี หางานในกรุงเทพ ให้ได้เงินเดือนแบบปังๆ
วิธีส่งจดหมายสมัครงานใน เว็บหางานทำ ให้น่าเชื่อถือ และถูกเลือก
ชี้เป้าเทคนิค สัมภาษณ์งาน อย่างไรให้ได้งานจริง


TAGS : บทความผู้หางาน , อัพเดตตำแหน่งงาน , jobmyway , เคล็ดลับทำงาน , สัมภาษณ์งาน , work from home , งานมาแรง , สมัครงาน work from home , รับสมัครงาน work from home , หางานใกล้บ้าน , สมัครงานใกล้บ้าน

บทความที่ได้รับความนิยม
งานที่น่าสนใจ